6  ไอเดียจัดบ้านสำหรับผู้สูงวัย อุ่นใจ ปลอดภัย ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ ‘สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society)’ หรือการมีประชากรที่อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด


6 ไอเดียจัดบ้านสำหรับผู้สูงวัย อุ่นใจ ปลอดภัย ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ ‘สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society)’ หรือการมีประชากรที่อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด

โพสต์เมื่อ : 14/08/2023 | 12:49 น. | 346 ครั้ง

ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ ‘สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society)’ หรือการมีประชากรที่อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด การดูแลผู้สูงอายุจึงกลายเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต่างให้ความสำคัญ โดยเฉพาะลูกหลานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุให้ได้รับความเป็นอยู่อย่างสบายที่สุด ดังนั้นการจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ จึงกลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต่างต้องเตรียมตัว

ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ ‘สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society)’ หรือการมีประชากรที่อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด การดูแลผู้สูงอายุจึงกลายเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต่างให้ความสำคัญ โดยเฉพาะลูกหลานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุให้ได้รับความเป็นอยู่อย่างสบายที่สุด ดังนั้นการจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ จึงกลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต่างต้องเตรียมตัว

1. จัดเตรียมพื้นที่ทางเดินภายในบ้านให้ปลอดภัย
เชื่อหรือไม่ว่าสถานที่ที่ผู้สูงอายุได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุสูงสุดนั้นเกิดจากภายในบ้าน เนื่องจากบ้านเป็นพื้นที่ที่มักใช้เวลามากที่สุดนั่นเอง ดังนั้นส่วนสำคัญส่วนแรกที่ควรจัดเตรียมเพื่อสร้างความปลอดภัยสิ่งแรก คือพื้นที่ทางเดินทั้งหมดภายในบ้าน โดยควรเลือกวัสดุปูพื้นที่ไม่มีความลื่น สามารถรองรับแรงกระแทก เพื่อลดการสั่นสะเทือนจากการเดินให้มากที่สุด นอกจากนี้ควรให้วัสดุปูพื้นมีความเรียบเสมอ มีพื้นต่างระดับให้น้อยที่สุด หรือหากมีก็ควรจะต้องทำสัญลักษณ์หรือสีให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการสะดุดล้ม อย่างพื้นห้องน้ำควรดีไซน์ให้เป็น stepless เพื่อลดการสะดุดล้ม รวมถึงไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์กีดขวางทางเดิน และควรเว้นช่องว่างสำหรับทางเดินไว้อย่างน้อย 1 เมตร

2. ปรับพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับวีลแชร์
สำหรับผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้วีลแชร์ ก็ควรปรับพื้นที่และอุปกรณ์ภายในบ้านให้สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสมด้วยเช่นกัน อาทิ ทางเข้าบ้านควรมีทางลาดที่มีความชันประมาณ 15 องศา หรือ 3:12 นิ้ว ประตูภายในบ้านควรเป็นประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิด-ปิดได้สะดวก หรือเป็นประตูที่มีมือจับเป็นก้านโยกหรือแกนผลักที่มีความสูงจากพื้นไม่เกิน 1 เมตร และมีความกว้างของประตูไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร รวมถึงควรเว้นที่โล่งไว้สำหรับวีลแชร์ ไม่ควรวางสิ่งของระเกะระกะ สำหรับพื้นที่จอดรถควรมีที่ว่างรอบคันในที่จอดรถอย่างน้อย 1 เมตร

3. เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม่เป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรค
ปัญหาไรฝุ่นส่งผลกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุด้วยแล้วจะยิ่งมีความอ่อนไหวมากกว่า ดังนั้น จึงควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่จะไม่เป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรค หากเป็นโซฟาผ้า ก็ควรมีการทำความสะอาดดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ หรือเลือกใช้ผ้าคลุมโซฟาป้องกันไรฝุ่นมาใช้ รวมถึงพรมที่มักเป็นแหล่งสะสมฝุ่น ควรทำความสะอาดสม่ำเสมอเช่นกัน นอกจากนี้การเลือกผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนก็ควรเลือกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันไรฝุ่นด้วย

4. วางสิ่งของและอุปกรณ์ในบ้านในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ความสูงที่เหมาะสมสำหรับการวางสิ่งของเพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถหยิบจับได้สะดวก ควรมีความสูงจากพื้นไม่เกิน 100 เซนติเมตร แต่หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีเหลี่ยมคม และมีความสูงจากพื้นประมาณ 45-60 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถลุกนั่งได้สะดวก รองรับสรีระได้อย่างพอดี สำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุมากและต้องการอุปกรณ์ช่วยประคองการเดิน ควรติดตั้งราวจับที่มีวัสดุผิวเรียบ ความสูงจากพื้นประมาณ 80-90 เซนติเมตร และควรติดตั้งในบริเวณห้องน้ำ เตียงนอน หรือในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้แรงเพื่อพยุงร่างกายในการเคลื่อนไหว

5. ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือยามฉุกเฉิน ควรติดตั้งตัวส่งสัญญาณในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเป็นพื้นที่ที่ผู้สูงวัยใช้เวลานานๆ เช่น บริเวณห้องน้ำ ห้องนอน โดยควรติดตั้งในระดับความสูงและระยะที่เอื้อมถึงได้สะดวก และติดตั้งตัวรับสัญญาณในบริเวณที่สมาชิกในบ้านสามารถได้ยินอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ควรติดตั้งระบบส่องสว่างอัตโนมัติในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและผู้สูงวัยมักเดินผ่านเช่น บริเวณขั้นบันได ทางเดิน หรือห้องน้ำ เป็นต้น

6. ทำอากาศภายในบ้านให้ดีต่อสุขภาพของผู้สูงวัย
เพราะผู้สูงอายุจะใช้เวลาอยู่ในบ้านมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว อากาศที่ดีภายในบ้านจะช่วยดูแลสุขภาพของผู้สูงวัย เนื่องจากปัจจุบันค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในบางช่วงจะมีค่าที่เกินเกณฑ์ความปลอดภัย ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ปอดและระบบทางเดินหายใจของผู้สูงวัยต้องทำงานหนัก และอาจเกิดโรคแทรกซ้อน บ้านที่พักอาศัยจึงมีความจำเป็นต้องติดตั้งระบบระบายอากศพร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้มีอากาศใหม่ที่กรองแล้วหมุนเวียนภายในบ้าน ส่งผลให้บ้านหายใจได้ เกิดสุขภาวะภายในบ้านซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้สูงวัย
ส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ คือควรจัดเตรียมให้อยู่บริเวณชั้นล่างของบ้าน เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุต้องขึ้นบันไดอันอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงต้องสามารถเข้าถึงห้องน้ำได้อย่างสะดวก และใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างอุ่นใจ เพราะนอกจากการดูแลสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจเองก็มีส่วนสำคัญสำหรับสุขภาพของผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน

1. จัดเตรียมพื้นที่ทางเดินภายในบ้านให้ปลอดภัย
เชื่อหรือไม่ว่าสถานที่ที่ผู้สูงอายุได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุสูงสุดนั้นเกิดจากภายในบ้าน เนื่องจากบ้านเป็นพื้นที่ที่มักใช้เวลามากที่สุดนั่นเอง ดังนั้นส่วนสำคัญส่วนแรกที่ควรจัดเตรียมเพื่อสร้างความปลอดภัยสิ่งแรก คือพื้นที่ทางเดินทั้งหมดภายในบ้าน โดยควรเลือกวัสดุปูพื้นที่ไม่มีความลื่น สามารถรองรับแรงกระแทก เพื่อลดการสั่นสะเทือนจากการเดินให้มากที่สุด นอกจากนี้ควรให้วัสดุปูพื้นมีความเรียบเสมอ มีพื้นต่างระดับให้น้อยที่สุด หรือหากมีก็ควรจะต้องทำสัญลักษณ์หรือสีให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการสะดุดล้ม อย่างพื้นห้องน้ำควรดีไซน์ให้เป็น stepless เพื่อลดการสะดุดล้ม รวมถึงไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์กีดขวางทางเดิน และควรเว้นช่องว่างสำหรับทางเดินไว้อย่างน้อย 1 เมตร

2. ปรับพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับวีลแชร์
สำหรับผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้วีลแชร์ ก็ควรปรับพื้นที่และอุปกรณ์ภายในบ้านให้สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสมด้วยเช่นกัน อาทิ ทางเข้าบ้านควรมีทางลาดที่มีความชันประมาณ 15 องศา หรือ 3:12 นิ้ว ประตูภายในบ้านควรเป็นประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิด-ปิดได้สะดวก หรือเป็นประตูที่มีมือจับเป็นก้านโยกหรือแกนผลักที่มีความสูงจากพื้นไม่เกิน 1 เมตร และมีความกว้างของประตูไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร รวมถึงควรเว้นที่โล่งไว้สำหรับวีลแชร์ ไม่ควรวางสิ่งของระเกะระกะ สำหรับพื้นที่จอดรถควรมีที่ว่างรอบคันในที่จอดรถอย่างน้อย 1 เมตร

3. เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม่เป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรค
ปัญหาไรฝุ่นส่งผลกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุด้วยแล้วจะยิ่งมีความอ่อนไหวมากกว่า ดังนั้น จึงควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่จะไม่เป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรค หากเป็นโซฟาผ้า ก็ควรมีการทำความสะอาดดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ หรือเลือกใช้ผ้าคลุมโซฟาป้องกันไรฝุ่นมาใช้ รวมถึงพรมที่มักเป็นแหล่งสะสมฝุ่น ควรทำความสะอาดสม่ำเสมอเช่นกัน นอกจากนี้การเลือกผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนก็ควรเลือกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันไรฝุ่นด้วย

4. วางสิ่งของและอุปกรณ์ในบ้านในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ความสูงที่เหมาะสมสำหรับการวางสิ่งของเพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถหยิบจับได้สะดวก ควรมีความสูงจากพื้นไม่เกิน 100 เซนติเมตร แต่หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีเหลี่ยมคม และมีความสูงจากพื้นประมาณ 45-60 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถลุกนั่งได้สะดวก รองรับสรีระได้อย่างพอดี สำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุมากและต้องการอุปกรณ์ช่วยประคองการเดิน ควรติดตั้งราวจับที่มีวัสดุผิวเรียบ ความสูงจากพื้นประมาณ 80-90 เซนติเมตร และควรติดตั้งในบริเวณห้องน้ำ เตียงนอน หรือในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้แรงเพื่อพยุงร่างกายในการเคลื่อนไหว

5. ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือยามฉุกเฉิน ควรติดตั้งตัวส่งสัญญาณในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเป็นพื้นที่ที่ผู้สูงวัยใช้เวลานานๆ เช่น บริเวณห้องน้ำ ห้องนอน โดยควรติดตั้งในระดับความสูงและระยะที่เอื้อมถึงได้สะดวก และติดตั้งตัวรับสัญญาณในบริเวณที่สมาชิกในบ้านสามารถได้ยินอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ควรติดตั้งระบบส่องสว่างอัตโนมัติในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและผู้สูงวัยมักเดินผ่านเช่น บริเวณขั้นบันได ทางเดิน หรือห้องน้ำ เป็นต้น

6. ทำอากาศภายในบ้านให้ดีต่อสุขภาพของผู้สูงวัย
เพราะผู้สูงอายุจะใช้เวลาอยู่ในบ้านมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว อากาศที่ดีภายในบ้านจะช่วยดูแลสุขภาพของผู้สูงวัย เนื่องจากปัจจุบันค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในบางช่วงจะมีค่าที่เกินเกณฑ์ความปลอดภัย ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ปอดและระบบทางเดินหายใจของผู้สูงวัยต้องทำงานหนัก และอาจเกิดโรคแทรกซ้อน บ้านที่พักอาศัยจึงมีความจำเป็นต้องติดตั้งระบบระบายอากศพร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้มีอากาศใหม่ที่กรองแล้วหมุนเวียนภายในบ้าน ส่งผลให้บ้านหายใจได้ เกิดสุขภาวะภายในบ้านซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้สูงวัย
ส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ คือควรจัดเตรียมให้อยู่บริเวณชั้นล่างของบ้าน เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุต้องขึ้นบันไดอันอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงต้องสามารถเข้าถึงห้องน้ำได้อย่างสะดวก และใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างอุ่นใจ เพราะนอกจากการดูแลสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจเองก็มีส่วนสำคัญสำหรับสุขภาพของผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน

 

สิริมันตรา Homecare

ชำระค่าส่วนกลาง
แจ้งซ่อม


COPYRIGHT © 2022 , SIRIMANTRA PUBLIC CO.,LTD ALL RIGHTS RESERVED.

ติดตามสิริมันตรา โซเชียล เน็ตเวิร์ก

เพื่อติดต่อกับเรา และแชร์ความหลงใหลในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ และบริการของสิริมันตรา